Vultr ดีไหม? คืออะไร? พร้อม 9 ขั้นตอนติดตั้ง WordPress 🚀

ขอเกริ่นนิดนึง Vultr WordPress อาจจะดูติดตั้งยากในตอนแรก แต่รับรองว่าคุ้มแน่ๆในระยะยาว มาเริ่มไปพร้อมกัน

สารบัญ (กดวาร์ปได้ถ้ารีบ🚀)

Vultr คืออะไร?

Vultr เป็นบริการ Cloud Infrastructure as a Service (IaaS) ที่ให้บริการเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Private Server หรือ VPS) ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ 💰 Vultr ช่วยให้คุณสามารถสร้างและจัดการเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ดูแลเว็บไซต์

Vultr ดีไหม จุดเด่นหลักของ Vultr คือการมีศูนย์ข้อมูล (Data Center) กระจายอยู่ทั่วโลกถึง 28 แห่ง รวมถึงในสิงคโปร์ 🇸🇬 ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ทำให้ได้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ชมในประเทศไทย

Vultr ให้บริการในรูปแบบจ่ายตามการใช้งาน (Pay-as-you-go) โดยเริ่มต้นเพียง $5 ต่อเดือนสำหรับแพ็คเกจพื้นฐาน ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการโฮสต์เว็บไซต์ WordPress

สนใจทดลองใช้งาน Vultr? คลิกที่นี่เพื่อรับเครดิตฟรี $300

Vultr ดีไหม? ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้

ข้อดีของ Vultr ✅

  1. ราคาประหยัด – แพ็คเกจเริ่มต้นเพียง $5/เดือน สำหรับ VPS ที่มี 1 vCPU, 1GB RAM และ 25GB SSD
  2. ประสิทธิภาพสูง – ใช้เทคโนโลยี 100% SSD และ KVM ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า shared hosting ทั่วไป
  3. ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ – ใกล้ไทย ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วมากสำหรับผู้ชมในประเทศไทย
  4. จ่ายตามการใช้งานจริง – คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง เหมาะสำหรับการทดสอบหรือโปรเจคระยะสั้น
  5. Marketplace Apps – มี WordPress และซอฟต์แวร์อื่นๆ ให้ติดตั้งได้ง่ายด้วยคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
  6. แดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย – อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายแม้สำหรับผู้เริ่มต้น
  7. ความเร็วเครือข่ายสูง – มีความเร็วเครือข่ายสูงถึง 10 Gbps
  8. ปรับขนาดได้ง่าย – สามารถปรับสเปคเซิร์ฟเวอร์ได้เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น

ข้อเสียของ Vultr ❌

  1. ต้องมีความรู้ทางเทคนิค – เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเซิร์ฟเวอร์
  2. ไม่มีการสนับสนุนเฉพาะ WordPress – ไม่มีการดูแล WordPress โดยเฉพาะเหมือนบริการ Managed WordPress Hosting
  3. ผู้ใช้ต้องจัดการความปลอดภัยเอง – ต้องรับผิดชอบเรื่องการอัปเดตและการรักษาความปลอดภัย
  4. การสนับสนุนลูกค้าอาจไม่รวดเร็วเท่าบริการเฉพาะทาง – เน้นสนับสนุนปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น

ทำไม Vultr Hosting จึงเหมาะกับการโฮสต์เว็บไซต์ WordPress

WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก และการใช้ Vultr เพื่อโฮสต์ WordPress มีข้อดีหลายประการ:

  1. ประสิทธิภาพเหนือกว่า Shared Hosting – ไม่ต้องแชร์ทรัพยากรกับเว็บไซต์อื่น ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
  2. OpenLiteSpeed รองรับ WordPress อย่างดีเยี่ยม – เร็วกว่า Apache และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า
  3. ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ – ลดความหน่วงเวลาให้ผู้เข้าชมในไทย ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
  4. คุ้มค่ากว่าบริการ WordPress แบบมีการจัดการ – ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
  5. ปรับแต่งได้อย่างอิสระ – ติดตั้งซอฟต์แวร์เสริมหรือปรับแต่งการตั้งค่าได้ตามต้องการ

การติดตั้ง WordPress ด้วย OpenLiteSpeed บน Vultr

ขั้นตอนที่ 1: การสมัครและเตรียมบัญชี Vultr

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ Vultr.com และสมัครสมาชิก
  2. เติมเงินเข้าบัญชี Vultr (ขั้นต่ำ $10) ใช้บัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือ คริปโตก็ได้
  3. เข้าสู่ระบบและไปที่หน้า Dashboard

ขั้นตอนที่ 2: การสร้าง Server บน Vultr (แพ็คเกจประหยัด)

 

1.คลิกที่ปุ่ม "+" หรือ "Deploy Server" ที่มุมขวาบน
2
2.เลือก Shared CPU จากนั้นเลือก Locations : Asia และเลือก Singapore ในส่วน Cloud Compute 1GB $5/month ถือว่าเพียงพอสำหรับเว็ปไซต์ขนาดเล็ก-กลาง
3
3.เลื่อนลงมาดูภาพรวม ถ้าถูกต้องแล้ว กด Configure Software
4.ในส่วน "Server Type" เลือก "Marketplace Apps"
5.ค้นหาและเลือก "OpenLiteSpeed WordPress"
6.Server Hostname and Label: ตั้งชื่อ server ตามต้องการ (เช่น "Vultr-Wordpress") และ คลิกปุ่ม "Deploy" เพื่อสร้าง server
7.รอประมาณ 1-2 นาทีเพื่อให้ server ถูกสร้างและติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ เมื่อสถานะเปลี่ยนเป็น "Running" แสดงว่า server พร้อมใช้งานแล้ว 🎉

ขั้นตอนที่ 3: การเข้าถึง Server และดูข้อมูลติดตั้ง

วิธีที่ 1: ใช้ SSH

  1. เปิดโปรแกรม Terminal (macOS/Linux) หรือ PuTTY (Windows)
  2. เชื่อมต่อเข้ากับ server ด้วยคำสั่ง:
 

 
ssh root@[your-server-IP]
  1. ป้อนรหัสผ่านที่ Vultr ส่งให้ทาง email หรือที่แสดงในหน้า Server Details

 

วิธีที่ 2: ใช้ Vultr Console (แนะนำวิธีนี้)

  1. ไปที่หน้า Server Details
  2. คลิกที่แท็บ “Console”
  3. เข้าสู่ระบบด้วย username: root และรหัสผ่านที่ได้รับ
1.ไปที่หน้า Server Details
2. Copy username: root และ Password จากนั้นกด View Console
3.เคลียหน้าจอเพื่อให้ดูง่าย กดที่ A และ ตรงที่วงไว้
4.กดที่ Clipboard เพื่อให้ Copy Paste ง่ายๆ
5.ใส่ Username Password จากขั้นตอนที่ 2 (root จากนั้นกดปุ่ม paste clickที่หน้าจอสีดำๆ และ enter password : ที่เซฟไว้ clickที่หน้าจอสีดำๆ และ enter
6.เมื่อระบบถามหา domain : IP Address ให้ไปดูจากข้อ2 จากนั้น enter แล้วกด y และ enter

7.เมื่อระบบถาม email : ใส่ email ที่จะไว้ใช้สมัคร wordpress

ดูข้อมูลการติดตั้ง WordPress

เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อดูข้อมูลการติดตั้ง:

bash

 
cat /root/.litespeed_password

คำสั่งนี้จะแสดงข้อมูลสำคัญดังนี้:

  • WordPress Admin URL
  • WordPress Admin Username
  • WordPress Admin Password
  • Database Name
  • Database Username
  • Database Password
  • MySQL Root Password
  • phpMyAdmin URL (ถ้ามี)

⚠️ สำคัญ: จดบันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้ในที่ปลอดภัย!

ขั้นตอนที่ 4: การเข้าถึง WordPress และ OpenLiteSpeed Admin

เข้าสู่ WordPress Admin

  1. เปิดเบราว์เซอร์และเข้าไปที่:
 

 
http://[your-server-IP]/wp-admin/
  1. ล็อกอินด้วย username และ password ที่ได้จากไฟล์ .litespeed_password
  1.  
เลือกภาษา
ตั้งชื่อเว็ปไซต์(ปรับแก้ทีหลังได้) ตั้งUsername Password แล้วจดไว้ รวมถึงemail
กด Log in
เข้าสู่หน้า WordPress เรียบร้อย
หน้า front end

 

  1. เข้าสู่ OpenLiteSpeed WebAdmin Console

    1. เปิดเบราว์เซอร์และเข้าไปที่:
     

     
    https://[your-server-IP]:7080/
    1. ยอมรับความเสี่ยงเกี่ยวกับใบรับรองความปลอดภัย (เนื่องจากเป็น self-signed certificate)
    2. ล็อกอินด้วย:
      • Username: admin
      • Password: (รหัสที่ได้จากไฟล์ .litespeed_password)

ขั้นตอนที่ 5: การตั้งค่าเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

เปลี่ยนรหัสผ่าน SSH

bash
 
passwd

อัปเดตระบบ

bash
 
apt update && apt upgrade -y

ตั้งค่าไฟร์วอลล์

bash
 
apt install ufw -y
ufw allow 22    # SSH
ufw allow 80    # HTTP
ufw allow 443   # HTTPS
ufw allow 7080  # OpenLiteSpeed Admin
ufw enable

ติดตั้ง Fail2Ban เพื่อป้องกันการโจมตี Brute Force

bash
 
apt install fail2ban -y
systemctl enable fail2ban
systemctl start fail2ban

ขั้นตอนที่ 6: การตั้งค่า Domain Name

ซื้อและตั้งค่า Domain

  1. ซื้อ domain name จากผู้ให้บริการ (เช่น GoDaddy, Namecheap)
  2. ตั้งค่า DNS ให้ชี้ไปที่ IP ของ Server Vultr ของคุณ:
    • สร้าง A Record: @ ชี้ไปที่ IP ของ Server
    • สร้าง A Record: www ชี้ไปที่ IP ของ Server

การตั้งค่า Virtual Host บน OpenLiteSpeed

  1. เข้าสู่ OpenLiteSpeed WebAdmin Console
  2. ไปที่ “Virtual Hosts” > เลือก Virtual Host ที่มีอยู่
  3. ไปที่แท็บ “General”
  4. แก้ไข “Domain Name” เป็น domain ของคุณ
  5. คลิก “Save” และ “Graceful Restart”

การแก้ไขค่า WordPress URL

  1. เข้าสู่ WordPress Admin
  2. ไปที่ “Settings” > “General”
  3. แก้ไข “WordPress Address (URL)” และ “Site Address (URL)” เป็น domain ของคุณ
  4. คลิก “Save Changes”

ขั้นตอนที่ 7: การตั้งค่า SSL (HTTPS)

การติดตั้ง Let’s Encrypt Certificate

หมายเหตุ: ต้องมี domain name ที่ชี้มาที่ server แล้วเท่านั้น

  1. เข้าสู่ Terminal/SSH ของ server
  2. รันสคริปต์ติดตั้ง Let’s Encrypt:
bash
 
cd /usr/local/lsws/add-ons/
./certbot.sh
  1. ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอ:
    • เลือก domain ที่ต้องการติดตั้ง SSL
    • ระบุอีเมลสำหรับการแจ้งเตือน
    • ยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน

การตั้งค่า WordPress ให้ใช้ HTTPS

  1. เข้าสู่ WordPress Admin
  2. ไปที่ “Settings” > “General”
  3. แก้ไข URL ให้ใช้ https:// แทน http://
  4. คลิก “Save Changes”
  5. ติดตั้งปลั๊กอิน “Really Simple SSL” เพื่อแก้ไขลิงก์ภายในเว็บไซต์ทั้งหมดให้เป็น HTTPS

ขั้นตอนที่ 8: การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย LiteSpeed Cache

การตั้งค่า LiteSpeed Cache Plugin

  1. เข้าสู่ WordPress Admin
  2. โดยปกติ LiteSpeed Cache จะถูกติดตั้งไว้แล้วในแพ็คเกจ OpenLiteSpeed WordPress
  3. ไปที่ “LiteSpeed Cache” ในเมนูด้านซ้าย
  4. การตั้งค่าแนะนำ:
    • ในแท็บ “Cache”: เปิดใช้งาน “Enable Cache” และ “Cache Login Users”
    • ในแท็บ “Optimization”: เปิดใช้งาน CSS/JS Minify และ Combine
    • ในแท็บ “Image Optimization”: เปิดใช้งาน “Image Optimization”
    • ในแท็บ “CDN”: ตั้งค่า CDN หากมี
  5. คลิก “Save Changes” หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงแต่ละส่วน

ขั้นตอนที่ 9: การสำรองข้อมูล

การสำรองข้อมูลอัตโนมัติด้วย Vultr

  1. ไปที่หน้า Server Details บน Vultr
  2. ไปที่แท็บ “Backups”
  3. เปิดใช้งาน “Auto Backups” (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม $0.20/GB ต่อเดือน)
  4. เลือกความถี่ในการสำรองข้อมูล (Weekly หรือ Daily)
  5. คลิก “Enable Auto Backups”

การสำรองข้อมูลผ่าน WordPress Plugin

  1. เข้าสู่ WordPress Admin
  2. ไปที่ “Plugins” > “Add New”
  3. ค้นหาและติดตั้งปลั๊กอิน “UpdraftPlus” หรือ “All-in-One WP Migration”
  4. ตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติและการจัดเก็บในบริการเก็บข้อมูลระยะไกล (เช่น Google Drive, Dropbox)

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้ Vultr WordPress

  1. จำกัดจำนวนปลั๊กอิน: ติดตั้งเฉพาะปลั๊กอินที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อประหยัดทรัพยากรและเพิ่มความเร็ว
  2. ตั้งค่า PHP อย่างเหมาะสม:
bash

 
nano /usr/local/lsws/lsphp74/etc/php/7.4/litespeed/php.ini

แก้ไขค่าต่อไปนี้:

 

 
memory_limit = 128M
max_execution_time = 300
upload_max_filesize = 32M
post_max_size = 32M
  1. ติดตั้ง Swap เพื่อป้องกันการหมดหน่วยความจำ:
bash

 
fallocate -l 2G /swapfile
chmod 600 /swapfile
mkswap /swapfile
swapon /swapfile
echo '/swapfile none swap sw 0 0' >> /etc/fstab
  1. ใช้ Cloudflare เป็น CDN ฟรี: ช่วยเพิ่มความเร็วและป้องกันการโจมตี DDoS
  2. เลือกธีมที่เบาและเร็ว: ใช้ธีมที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพ เช่น Astra, GeneratePress หรือ Kadence

การแก้ไขปัญหาทั่วไป

หากไม่สามารถเข้าถึง OpenLiteSpeed WebAdmin

bash
 
systemctl restart lsws

หากลืมรหัสผ่าน OpenLiteSpeed WebAdmin

bash
 
/usr/local/lsws/admin/misc/admpass.sh

หากต้องการรีสตาร์ท OpenLiteSpeed

bash
 
systemctl restart lsws

การตรวจสอบสถานะของ OpenLiteSpeed

bash
 
systemctl status lsws

ปัญหา WordPress ไม่สามารถอัปโหลดไฟล์ได้

แก้ไขสิทธิ์ของโฟลเดอร์อัปโหลด:

bash
 
chown -R www-data:www-data /var/www/html/wp-content/uploads
chmod -R 755 /var/www/html/wp-content/uploads

 

สรุป: Vultr ดีไหม ทำไม จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเว็บไซต์ไทย

Vultr เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโฮสต์เว็บไซต์ WordPress สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ด้วยเหตุผลหลายประการ:

  1. ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ – ให้ความเร็วสูงสำหรับผู้เข้าชมในไทย ลดความหน่วงเวลาอย่างมาก
  2. ราคาประหยัด – เริ่มต้นเพียง $5/เดือน ถูกกว่าโฮสติ้ง WordPress แบบมีการจัดการหลายเท่า
  3. OpenLiteSpeed – เทคโนโลยีเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วและเหมาะที่สุดสำหรับ WordPress
  4. ควบคุมได้เต็มที่ – ปรับแต่งเซิร์ฟเวอร์ได้ตามต้องการ ไม่มีข้อจำกัดเหมือนโฮสติ้งทั่วไป
  5. ปรับขนาดได้ง่าย – เมื่อเว็บไซต์เติบโต สามารถอัปเกรดทรัพยากรได้อย่างรวดเร็ว

แม้ว่า Vultr จะต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมากกว่าโฮสติ้ง WordPress แบบมีการจัดการ แต่ด้วยคู่มือที่ครอบคลุมนี้ การตั้งค่า WordPress บน Vultr ด้วย OpenLiteSpeed ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

เริ่มต้นใช้งาน Vultr วันนี้และสัมผัสกับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาที่คุ้มค่าสำหรับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ!

ข้อเสนอพิเศษ: รับเครดิตฟรี $300 เพื่อทดลองใช้บริการ Vultr ไม่มีข้อผูกมัด – คลิกลิงก์นี้เพื่อสร้างบัญชีใหม่! (ผมจะได้เครดิต100$เป็นการสนับสนุนผมไปด้วย)

การใช้ Vultr เพื่อโฮสต์ WordPress ผ่าน OpenLiteSpeed เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเจ้าของเว็บไซต์และธุรกิจในไทยที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสามารถตั้งเซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศไทย ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความเร็วสูงกว่าการใช้โฮสต์ที่ตั้งในอเมริกาหรือยุโรป

เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะได้เว็บไซต์ WordPress ที่ทำงานด้วย OpenLiteSpeed บน Vultr ในแพ็คเกจราคาเริ่มต้นเพียง $5 ต่อเดือน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

ลองใช้ Vultr วันนี้และสัมผัสประสบการณ์การโฮสต์เว็บไซต์ WordPress ที่เหนือชั้น ด้วยเครดิตฟรี $300 คุณสามารถทดลองใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง!

Vultr ดีไหม? ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับติดตั้ง WordPress ในไทย

Vultr ดีไหม? คำตอบสำหรับการติดตั้ง WordPress ในไทย

โปรโมชั่นพิเศษ: รับเครดิตฟรี $300 เพื่อทดลองใช้บริการ Vultr ไม่มีข้อผูกมัด

Vultr ดีไหม สำหรับเว็บไซต์ WordPress?

หลายคนสงสัยว่า Vultr ดีไหม สำหรับโฮสต์เว็บไซต์ WordPress ในไทย คำตอบคือ "ดีมาก" โดยเฉพาะด้วยราคาเริ่มต้นเพียง $5/เดือน เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วสำหรับผู้ชมในไทย และคุณได้ควบคุมเซิร์ฟเวอร์อย่างเต็มที่

ข้อดีที่ทำให้ Vultr ดีไหม ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นคำตอบ

เริ่มต้นเพียง $5/เดือน (1 vCPU, 1GB RAM, 25GB SSD)
เซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ ใกล้ประเทศไทย ให้ความเร็วสูง
OpenLiteSpeed ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า Apache และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า
ควบคุมได้เต็มที่ ปรับแต่งเซิร์ฟเวอร์ได้ตามต้องการ
ปรับขนาดได้ง่ายเมื่อเว็บไซต์เติบโต

วิธีติดตั้ง WordPress บน Vultr แบบง่ายๆ

  1. สมัครบัญชี Vultr และเติมเงิน (ขั้นต่ำ $10)
  2. สร้าง Server เลือก "OpenLiteSpeed WordPress" ที่สิงคโปร์ ($5/เดือน)
  3. เข้าสู่ Server ด้วย SSH และดูข้อมูลการติดตั้ง WordPress
  4. ตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม (Firewall, Fail2Ban)
  5. ตั้งค่า Domain และติดตั้ง SSL ด้วย Let's Encrypt
  6. ตั้งค่า LiteSpeed Cache เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  7. ตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ

สรุป: Vultr ดีไหม สำหรับธุรกิจของคุณ?

หากคำถามของคุณคือ "Vultr ดีไหม" คำตอบคือ "ดีเยี่ยม" สำหรับทั้งเว็บไซต์ขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง $5/เดือน คุณจะได้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแพลตฟอร์ม shared hosting ทั่วไปหลายเท่า โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ OpenLiteSpeed ซึ่งเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ WordPress