7 ประโยชน์ของตู้เก็บไวน์ : ความหรูหราในการเก็บไวน์

ความหรูหราในการเก็บไวน์ : 7 ประโยชน์ของตู้เก็บไวน์

ในโลกที่การจัดเก็บไวน์ได้พัฒนาไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ตู้เก็บไวน์ถือเป็นจุดสูงสุดของความสะดวกสบาย มันเป็นมากกว่าอุปกรณ์จัดเก็บไวน์ แต่คือผู้พิทักษ์รสชาติ กลิ่นหอม และความทรงจำ ในบทความนี้ เรามาเจาะลึกกันว่าทำไมตู้แช่ไวน์เป็นสิ่งที่คุณคู่ควร

1.ความแม่นยำในการเก็บรักษา :

ตู้เก็บไวน์

ตู้แช่ไวน์มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่ล้ำสมัย ความแม่นยำนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไวน์ขาวและไวน์แดงของคุณถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสมและพร้อมเสิร์ฟ ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพไวน์อีกต่อไป

2.การรักษาระดับความชื้น :

ระดับความชื้นที่สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการเก็บไวน์ ตู้แช่ไวน์ช่วยให้รักษาความชื้นไว้ที่ประมาณ 70% โดยรักษาจุกไม้ก๊อกและรักษาคุณภาพไวน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

3.ความเงียบ :

ตู้แช่ไวน์ต่างจากตัวเลือกการจัดเก็บแบบดั้งเดิมตรงที่ตู้แช่ไวน์ทำงานเงียบและมีการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด ทำให้ไวน์ของคุณไม่ถูกรบกวน ช่วยให้ไวน์คงสภาพได้อย่างดีและคงรสชาติอันละเอียดอ่อนไว้ได้

4.การป้องกันรังสียูวี :

รังสียูวีที่เป็นอันตรายที่ทำให้คุณภาพไวน์เสื่อมลง ตู้แช่ไวน์จะมีประตูกระจก 3 ชั้น ที่ช่วยกรองและทนต่อรังสียูวี ซึ่งจะช่วยรักษาความสมบูรณ์ของคอลเลกชันไวน์ของคุณ

5.ใช้งานง่าย :

สามารถปรับชั้นวางได้ ทำให้ปรับแต่งการจัดเรียงขวดไวน์เป็นเรื่องง่าย บางรุ่นมีการควบคุมด้วยหน้าจอสัมผัส ช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงคอลเลกชันของคุณได้อย่างแม่นยำและมีสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเก็บไวน์บอร์กโดซ์ ปิโนต์ นัวร์ หรือสปาร์คกลิ้งไวน์(Bordeaux, Pinot Noir,sparkling wine)

6.ประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ :

ตู้แช่ไวน์เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผสานเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัยของคุณได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตั้งตู้แช่ไวน์แบบStand Alone หรือ Build In ตั้งแต่ห้องรับแขก ห้องครัวไปจนถึงห้องรับประทานอาหาร เพิ่มความหรูหราทันสมัยให้กับบ้านของคุณได้อย่างดี

7.การประกันความปลอดภัย :

ปกป้องไวน์ของคุณด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง : ตู้แช่ไวน์หลายรุ่นมาพร้อมกับประตูที่ล็อคได้และแผงปุ่มกดดิจิตอล เพื่อให้มั่นใจว่าคอลเลกชันไวน์อันมีค่าของคุณยังคงปลอดภัย

การเลือกตู้แช่ไวน์ที่เหมาะกับคุณ :

ก่อนเลือกตู้แช่ไวน์ ให้พิจารณาขนาดพื้นที่และศักยภาพในการเพิ่มของคอลเลกชันไวน์ของคุณ วัดพื้นที่ว่างของคุณและเลือกยูนิตที่ลงตัวกับความสวยงามของบ้าน ใส่ใจกับองค์ประกอบของการออกแบบ เนื่องตู้แช่ไวน์เหล่านี้จะผสมผสานการใช้งานเข้ากับความหรูหรา สุดท้ายคุณต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการตู้แช่ไวน์รุ่นโซนเดียวหรือสองโซน ขึ้นอยู่กับความชอบไวน์ของคุณ

บทสรุป :

ตู้แช่ไวน์เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความซาบซึ้งในรสชาติของไวน์ ด้วยการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ การควบคุมความชื้น และการออกแบบที่พิถีพิถัน ตู้แช่ไวน์เหล่านี้จะยกระดับประสบการณ์ไวน์ของคุณไปสู่อีกระดับหนึ่ง คอลเลกชันไวน์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องการจัดเก็บเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมบารมีอีกด้วย ทำให้ทุกการดื่มของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดี

แนะนำตู้แช่ไวน์นำเข้าจากสวีเดนรุ่นต่างๆของทางร้าน
D154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
D42F ตู้แช่ไวน์ 42 ขวด
D46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
C18B ตู้แช่ไวน์ 18 ขวด

Dometic winecellar by orsgo.com

อุณหภูมิแช่ไวน์ : อุณหภูมิไหนเหมาะสุดในการแช่ไวน์ ? 7 ทริค

อุณหภูมิแช่ไวน์ : 6 ทริค อุณหภูมิไหนเหมาะสุดในการแช่ไวน์ ?


ไวน์เป็นมากกว่าเครื่องดื่ม มันเป็นรูปแบบศิลปะที่วิวัฒนาการไปตามอุณหภูมิ ไม่ว่าคุณจะเป็นคอไวน์ตัวยงหรือผู้ชื่นชอบดื่มไวน์แบบสบายๆ การเข้าใจอุณหภูมิแช่ไวน์ ที่เหมาะที่สุดจะช่วยให้สามารถยกระดับประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณได้ ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันว่าอุณหภูมิส่งผลต่อไวน์อย่างไร และรับข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับไวน์ขวดโปรดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

1. ไวน์ขาว: ความสมบูรณ์แบบแช่เย็น

   – ไวน์ขาว เช่น Sauvignon Blanc, Chardonnay และ Riesling จะเปล่งประกายเมื่อเสิร์ฟแบบแช่เย็น ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับไวน์ขาวโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 45°F ถึง 55°F (7°C ถึง 13°C)

   – ไวน์ขาวที่รสชาติเบากว่า เช่น Sauvignon Blanc จะดีที่สุดในช่วงล่างสุดของช่วงนี้ ในขณะที่ไวน์Chardonnayที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มฟูกว่าจะได้ประโยชน์จากอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นเล็กน้อย

2. ไวน์แดง: ความสมดุลคือกุญแจสำคัญ

   – ไวน์แดง เช่น Cabernet Sauvignon, Merlot และ Pinot Noir ต้องการความอบอุ่นอีกเล็กน้อยเพื่อเผยคุณลักษณะเด่นทั้งหมดออกมาได้ดียิ่งขึ้น ช่วงอุณหภูมิที่แนะนำสำหรับไวน์แดงคือประมาณ 55°F ถึง 65°F (13°C ถึง 18°C)

   – สีแดงที่สว่างกว่า เช่น Pinot Noir จะดูดีเมื่อเย็นลงเล็กน้อย ในขณะที่สีแดงที่เข้มกว่า เช่น กาเบอร์เนต์ โซวิญง(Cabernet Sauvignon) จะมีรสสัมผัสที่เด่นในช่วงปลายที่สูงกว่า

3. สปาร์คกลิ้งไวน์: ความเย็นสดชื่น

   – สปาร์กลิงไวน์(Sparkling wine) รวมถึงแชมเปญและโพรเซคโก(Champagne , Prosecco) ขึ้นชื่อในเรื่องความซาบซ่าน หากต้องการเพลิดเพลินกับฟองและรสชาติอย่างเต็มที่ ให้เสิร์ฟแบบแช่เย็นที่อุณหภูมิประมาณ 40°F ถึง 50°F (4°C ถึง 10°C)

   – ถังน้ำแข็งเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเก็บสปาร์กลิ้งไวน์ให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมระหว่างการดื่ม

อุณหภูมิแช่ไวน์
อุณหภูมิแช่ไวน์

4. Rosé : ความสดชื่น

   – ไวน์Rosé ให้ความสมดุลอันน่ารื่นรมย์ระหว่างไวน์ขาวและไวน์แดง เก็บไว้ในตู้เย็นในช่วง 45°F ถึง 55°F (7°C ถึง 13°C) เพื่อรสชาติที่สดชื่น

   – อุณหภูมิที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของไวน์Rosé ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

5. Dessert and Fortified Wines (เหล้าองุ่นแดงหรือขาวที่ผสมบรั่นดีหรือวอดก้า) : ความอบอุ่นอันแสนหวาน

   – Dessert Wines เช่น ไวน์พอร์ต(Port) และเชอร์รี่(Sherry) รวมถึงไวน์ผสมวอดก้า จะได้ประโยชน์จากอุณหภูมิในการเสิร์ฟที่อุ่นขึ้นเล็กน้อย โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 55°F ถึง 65°F (13°C ถึง 18°C)

   – ความอบอุ่นที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนของไวน์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่

6. วิธีทำให้อุณหภูมิเหมาะสม:

   – ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไวน์เพื่อให้แน่ใจว่าควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ

   – หากไวน์ของคุณเย็นเกินไป ให้ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องสักพักหนึ่งหรืออุ่นไวน์เบา ๆ ด้วยมือของคุณ

   – สำหรับไวน์ที่อุ่นเกินไป ลองใช้ถังน้ำแข็งหรือตู้แช่ไวน์เพื่อลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ

7. เคล็ดลับในการเสิร์ฟไวน์:

   – โปรดจำไว้ว่าอุณหภูมิของไวน์สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรสชาติ กลิ่น และประสบการณ์โดยรวมของไวน์

   – เมื่อเสิร์ฟไวน์หลากหลายชนิดในงาน ให้จัดเรียงจากสีอ่อนไปเข้มหรือแห้งไปหวานเพื่อช่วยให้แขกเห็นถึงความแตกต่างของไวน์แต่ละชนิด

โดยสรุป อุณหภูมิของไวน์เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถเพิ่มหรือลดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณได้ ด้วยการทำความเข้าใจอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์ประเภทต่างๆ และทำตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุ คุณจะสามารถลิ้มรสรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่คุณชื่นชอบได้อย่างครบถ้วน ขอให้อุณหภูมิไวน์สมบูรณ์แบบและช่วงเวลาที่น่าจดจำ!

ถ้าคุณได้ทริคดีๆแล้วอยากได้ตู้แช่ไวน์ดีๆซักตู้ ลองชมตู้แช่ไวน์ของทางร้านได้ครับ 🙂

แนะนำตู้แช่ไวน์นำเข้าจากสวีเดนรุ่นต่างๆของทางร้าน
D154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
D42F ตู้แช่ไวน์ 42 ขวด
D46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
C18B ตู้แช่ไวน์ 18 ขวด

Dometic winecellar by orsgo.com

6 เทคนิค ใช้ตู้ไวน์ยกระดับคอลเลกชันไวน์

ตู้ไวน์

ยกระดับคอลเลกชันไวน์ของคุณด้วย ตู้ไวน์

ผู้ที่ชื่นชอบไวน์เข้าใจถึงความสำคัญของการจัดเก็บไวน์อย่างเหมาะสม สภาวะที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่คุณชื่นชอบได้
ในขณะที่การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ไวน์เสียหายได้ หากคุณกำลังมองหาที่จะยกระดับคอลเลกชันไวน์ของคุณและลิ้มรสทุกการจิบ ตู้ไวน์ อาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงคุณประโยชน์ของตู้แช่ไวน์ และเหตุใดเราจึงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ชื่นชอบไวน์

1. การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ:

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการรักษาคุณภาพไวน์คือการรักษาอุณหภูมิให้สม่ำเสมอ ตู้แช่ไวน์ตอบโจทย์ในการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไวน์ของคุณจะถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะสะสมไวน์แดงหรือไวน์ขาว ตู้แช่ไวน์ ช่วยให้คุณสามารถกำหนดและรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ โดยรักษาความสมบูรณ์ของคอลเลกชันไวน์คุณ

2. การจัดการความชื้น:

การรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสมมีความสำคัญในการเก็บรักษาไวน์ ตู้แช่ไวน์ มาพร้อมกับระบบควบคุมความชื้นที่ป้องกันไม่ให้จุกไม้ก๊อกแห้งและไวน์จากการเกิดออกซิไดซ์ คุณลักษณะนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับรองว่าไวน์ของคุณมีอายุอย่างงดงามและพัฒนาศักยภาพสูงสุด

3. ลดการสั่นสะเทือน:

การสั่นสะเทือนที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการเสื่อมสภาพของไวน์ได้ ตู้แช่ไวน์ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือน ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าไวน์ของคุณไม่ถูกรบกวน คุณสมบัตินี้มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว ซึ่งแม้แต่การสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่ปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ในขวดได้

4. ประสิทธิภาพพื้นที่:

ตู้เก็บไวน์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักสะสมไวน์ที่มีพื้นที่จำกัด เราเสนอตู้เก็บไวน์หลากหลายขนาดเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการจัดเก็บขวดหลายสิบขวดหรือของสะสมจำนวนมาก ห้องเก็บไวน์ที่มีขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มความจุในการจัดเก็บได้สูงสุดโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ

5. การออกแบบที่ทันสมัย:

เราเข้าใจดีว่าการจัดเก็บไวน์ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการใช้งานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสวยงามด้วย ห้องเก็บไวน์ไฟฟ้าได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม ช่วยเสริมบรรยากาศให้กับทุกห้อง ไม่ว่าคุณจะชอบรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและทันสมัยหรือสไตล์ดั้งเดิม เสนอตัวเลือกที่จะเติมเต็มการตกแต่งให้เข้ากับสไตล์ห้องของคุณ

6. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน:

ห้องเก็บไวน์ไฟฟ้าของ Orsgo.com ไม่เพียงแต่ออกแบบมาเพื่อปกป้องไวน์เท่านั้น แต่ยังประหยัดพลังงาน เราใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดในขณะที่ยังคงสภาพการจัดเก็บที่สมบูรณ์แบบสำหรับคอลเลกชันของคุณ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยประหยัดเงินค่าไฟอีกด้วย

แนะนำตู้แช่ไวน์นำเข้าจากสวีเดนรุ่นต่างๆของทางร้าน
D154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
D42F ตู้แช่ไวน์ 42 ขวด
D46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
C18B ตู้แช่ไวน์ 18 ขวด

Dometic winecellar by orsgo.com

วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้วรวมถึงไวน์ขวดใหม่

วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว
วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว

วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้วรวมถึงไวน์ขวดใหม่

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบดื่มไวน์เป็นประจำ หรือชอบจิบไวน์เป็นครั้งคราว การรู้วิธีจัดเก็บไวน์ก่อน และ วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด 
การจัดเก็บไวน์ที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างให้กับประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณได้อย่างมาก ในบทความนี้ เราจะสำรวจขั้นตอนและเคล็ดลับเพื่อช่วยให้คุณรักษาไวน์ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ตั้งแต่วินาทีแรกที่ไวน์เข้าบ้านไปจนถึงหยดสุดท้ายในแก้ว

1. อุณหภูมิมีความสำคัญ

   – ก่อนเปิด: เก็บขวดไวน์ไว้ในที่เย็น แสงเข้าถึงน้อยรวมถึงมีอุณหภูมิสม่ำเสมอประมาณ 55°F (13°C) หลีกเลี่ยงความผันผวนของอุณหภูมิ และความชื้น
เนื่องจากอาจทำให้ไวน์ด้อยคุณภาพลงและเน่าเสียได้ (แนะนำเป็นตู้แช่ไวน์หรือห้องเก็บไวน์)

   – หลังจากเปิด: หากคุณเปิดขวดและดื่มไม่หมดในคราวเดียว ให้ปิดขวดให้แน่นแล้วเก็บไว้ในตู้แช่ไวน์ที่อุณหภูมิประมาณ 55-65°F (13-18°C) สำหรับไวน์แดง
หรือ 45-50° F (7-10°C) สำหรับไวน์ขาว ควรบริโภคภายใน 2-3 วันเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด

2. การควบคุมความชื้น

   – ก่อนเปิด: รักษาระดับความชื้นไว้ประมาณ 70% เพื่อป้องกันไม่ให้จุกไม้ก๊อกแห้ง และป้องกันไม่ให้อากาศซึมเข้าไปในขวด

   – หลังจากเปิด: การควบคุมความชื้นมีความสำคัญน้อยลงหลังเปิด แต่ยังคงควรรักษาความชื้นด้วยไม้ก๊อกเพื่อรักษาการปิดผนึก

3. หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน

   – ก่อนเปิด: เก็บขวดไวน์ให้ห่างจากอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เช่น ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า เนื่องจากการสั่นสะเทือนอาจรบกวนตะกอนในไวน์ได้

   – หลังจากเปิด: ค่อยๆ จับขวดที่เปิดอยู่เพื่อไม่ให้รบกวนตะกอนที่อาจเกาะอยู่

4. หลีกเลี่ยงแสง UV

   – ก่อนเปิด: เก็บไวน์ไว้ในที่มืด หรือใช้ชั้นวาง หรือฝาครอบไวน์ที่ทนต่อรังสียูวีเพื่อป้องกันแสง ซึ่งอาจทำให้ไวน์รสชาติและกลิ่นสัมผัสด้อยลง

   – หลังจากเปิด: ใช้จุกปิดไวน์หรือระบบเก็บรักษาไวน์ที่ช่วยลดแสงของไวน์ให้เหลือน้อยที่สุด เช่น ตู้ไวน์ หรือห้องเก็บไวน์ใต้ดิน

5. เก็บรักษาไวน์ในที่ที่เหมาะสม

   – ก่อนเปิด: วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้วเก็บขวดไวน์ในแนวนอน เพื่อรักษาความชื้นของจุกไม้ก๊อกและปิดผนึกให้แน่น

   – หลังเปิด: เก็บขวดที่เปิดแล้วไว้ตั้งตรง เพื่อลดพื้นที่ผิวที่สัมผัสกับออกซิเจน

6. ควบคุมกลิ่น

   – ก่อนเปิด: หลีกเลี่ยงการเก็บไวน์ไว้ใกล้สารที่มีกลิ่นแรง เนื่องจากไวน์สามารถดูดซับกลิ่นได้

   – หลังเปิด: ปิดขวดด้วยจุกสุญญากาศเพื่อป้องกันไม่ให้ไวน์ดูดซับกลิ่นในตู้เย็น

7. เก็บรักษาด้วยอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการแช่ไวน์

– ก่อนเปิด : ควรลองพิจารณาลงทุนใน ห้องใต้ดิน หรือ ตู้แช่ไวน์ เพราะตู้แช่ไวน์ที่ดีจะช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่แม่นยำ ทำให้ช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง โดยเฉพาะตู้แช่ไวน์ 2 โซนอุณหภูมิ ซึ่งเหมาะสำหรับแช่ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงในตู้เดียวกัน โดยแบ่งโซนด้านบนสำหรับแช่ไวน์ขาว(อุณหภูมิต่ำกว่า) ด้านล่างสำหรับแช่ไวน์แดง(อุณหภูมิสูงกว่า) เนื่องจากโดยปกติแล้วCompressorที่คอยทำความเย็นจะอยู่ด้านบน เลยทำให้ตู้โซนด้านบนจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าเลยเหมาะสำหรับแช่ไวน์ขาวในโซนด้านบน

วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว
วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว

แนะนำตู้แช่ไวน์นำเข้าจากสวีเดนรุ่นต่างๆของทางร้าน
D154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
D42F ตู้แช่ไวน์ 42 ขวด
D46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
C18B ตู้แช่ไวน์ 18 ขวด

Dometic winecellar by orsgo.com

   – วิธีเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว : ใช้ปั๊มสุญญากาศ สเปรย์ก๊าซเฉื่อย หรือระบบถนอมไวน์ เพื่อกำจัดอากาศและยืดอายุไวน์ที่เปิดของคุณ

8. เสิร์ฟในอุณหภูมิที่เหมาะสม

   – ก่อนเปิด: ปล่อยให้ไวน์มีอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟก่อนเปิดจุก โดยทั่วไปแล้วสีแดงจะมีรสชาติดีที่สุดที่อุณหภูมิอุ่นกว่าสีขาวเล็กน้อย

   – หลังเปิด: เสิร์ฟไวน์ตามอุณหภูมิที่แนะนำตามประเภทของไวน์ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ครบถ้วน

9. ฉลากและที่เปิดขวด

   – ก่อนเปิด: ควรดูแลรักษาคอลเลกชันไวน์อย่างเป็นระเบียบ ติดฉลากขวดพร้อมวันที่ซื้อและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

   – หลังจากเปิดขวด: จดวันที่ที่คุณเปิดขวดเพื่อติดตามความสดของขวด

10. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรบอกลาไวน์

   – ก่อนเปิด: ไวน์บางชนิดไม่ได้รสชาติดีขึ้นเมื่อเก็บนานๆ การศึกษาระยะเวลาการบ่มของไวน์แต่ละขวดช่วยได้ ดังนั้นอย่าลังเลในการหยิบไวน์ออกจากตู้แช่ไวน์และเพลิดเพลินไปกับไวน์ให้เติมเต็มค่ำคืนแสนพิเศษ

   – หลังจากเปิด: หากไวน์ผ่านช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือสูญเสียรสชาติไปแล้ว ให้พิจารณานำไปใช้ปรุงอาหารหรือทิ้งไป

โดยสรุป การเก็บรักษาไวน์อย่างเหมาะสมทำได้โดยใช้วิธีและเครื่องมือที่เหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะดื่มไวน์ขวดพิเศษหรือเพลิดเพลินกับอาหารค่ำสักแก้ว โดยทริคสั้นๆ 10 ข้อด้านบน สามารถมั่นใจได้เลยว่าไวน์ของคุณจะยังคงคุณภาพดีที่สุดตั้งแต่วินาทีที่คุณนำกลับบ้านไปจนถึงจิบหยดสุดท้ายในแก้วของคุณ

How to Properly Store and Preserve Wine Before and After Opening


Whether you’re a wine enthusiast or an occasional sipper, knowing how to store and preserve wine before and after opening is essential to ensure the best possible taste and aroma. Proper wine storage and handling can make a significant difference in your wine-drinking experience. In this guide, we’ll explore the steps and tips to help you keep your wine in optimal condition, from the moment it enters your home to the last drop in your glass.

1. Temperature Matters

  • Before Opening: Store wine bottles on their sides in a cool, dark place at a consistent temperature of around 55°F (13°C). Avoid temperature fluctuations, as they can cause wine to age prematurely and spoil.
  • After Opening: If you can’t finish the bottle in one sitting, recork it tightly and store it in the refrigerator at a temperature of about 55-65°F (13-18°C) for red wine or 45-50°F (7-10°C) for white wine. Consume within a few days for the best quality.

2. Humidity Control

  • Before Opening: Maintain humidity levels around 70% to prevent corks from drying out and allowing air to seep into the bottle.
  • After Opening: Humidity control is less critical after opening, but it’s still a good practice to keep the cork moist to maintain the seal.

3. Avoid Vibrations

  1. Before Opening: Keep wine bottles away from appliances that produce vibrations, such as refrigerators and washing machines, as vibrations can disturb the sediment in wine.
  2. After Opening: Handle the open bottle gently to avoid disturbing any sediment that may have settled.

4. Shield from Light

  • Before Opening: Store wine in a dark place or use UV-resistant wine racks or covers to protect it from light, which can cause wine to age prematurely.
  • After Opening: Use wine stoppers or wine preservation systems that minimize the wine’s exposure to light.

5. Maintain Proper Position

  • Before Opening: Store wine bottles horizontally to keep the cork moist and create a tight seal.
  • After Opening: Store open bottles upright to minimize the surface area exposed to oxygen.

6. Control Odors

  • Before Opening: Avoid storing wine near strong-smelling substances as wine can absorb odors.
  • After Opening: Seal the bottle with an airtight stopper to prevent wine from absorbing fridge odors.

7. Preserve with Wine Accessories

  • Before Opening: Consider investing in wine coolers, cellars, or wine fridges with precise temperature and humidity controls.
  • After Opening: Use vacuum pumps, inert gas sprays, or wine preservation systems to remove air and extend the life of your open wine.

8. Serve at the Right Temperature

  • Before Opening: Allow wine to reach its ideal serving temperature before uncorking. Reds generally taste best at slightly warmer temperatures than whites.
  • After Opening: Serve wine at the recommended temperature for its type to enjoy the full range of flavors and aromas.

9. Label and Date Bottles

  • Before Opening: Maintain an organized wine collection, labeling bottles with their purchase date and other relevant information.
  • After Opening: Jot down the date you opened the bottle to keep track of its freshness.

10. Know When to Say Goodbye

  • Before Opening: Not all wines improve with age. Research the aging potential of the wine you purchase, and don’t hesitate to enjoy it at its peak.
  • After Opening: If a wine has passed its prime or lost its flavors, consider using it for cooking or discard it.

In conclusion, proper wine storage and preservation practices can enhance your wine-drinking experience, whether you’re savoring a special bottle or enjoying a glass with dinner. By following these guidelines, you can ensure that your wine remains at its best from the moment you bring it home to the last sip in your glass. Cheers!

ตู้แช่ไวน์ช่วยคงคุณภาพไวน์ได้ยังไง ?

ตู้แช่ไวน์ระดับพรีเมี่ยม


ตู้แช่ไวน์ช่วยคงคุณภาพไวน์ได้ยังไง ?

วิธีการเลือกตู้แช่ไวน์ !?

สำหรับ “ตู้แช่ไวน์” ที่ดีควรมีระบบสร้างสภาพการเก็บรักษาที่สมบูรณ์ เพราะการดูแลรักษาคุณภาพไวน์มีข้อจำกัดยิบย่อย สำหรับไวน์แล้วการให้กลิ่นหรือรสชาติจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการเก็บรักษา และอุณหภูมิที่ถูกต้อง ดังนั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทำความเย็น เราได้สร้างตู้แช่ไวน์เพื่อให้ไวน์อยู่ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ถ้าคุณลูกค้ากำลังมองหาตู้แช่ไวน์เพื่อใช้ในบ้านหรือใช้ประกอบธุรกิจเราช่วยคุณได้ ! 

ระบบควบคุมความเย็น (TEMPERATURE CONTROL SYSTEM)

“ตู้แช่ไวน์ Dometic Winecellar  
ตู้แช่ไวน์ของเราเป็นตู้ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมและการจัดเก็บที่สมบูรณ์แบบ โดยมีอุณหภูมิคงที่ระหว่าง 12 ° C (53.6 ° F) – 14 ° C (57.2 ° F) ซึ่งระบบการควบคุมอุณหภูมิทำหน้าที่ในการผลิตความเย็น  ส่งผลให้อุณหภูมิที่เหมาะสมนี้สามารถดึงรสชาติ กลิ่น และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไวน์ออกมาได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงในส่วนของระบบความชื้นสัมพัทธ์คงที่ ตู้แช่ไวน์ของเราจะเก็บความชื้นระหว่าง 50-70% 

ระบบการป้องกันรังสี UV (UV FILTER)

“แสง” เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมากในการเก็บรักษาไวน์ขวดโปรดของคุณ โดยเฉพาะแสงอาทิตย์ที่มาพร้อมกับรังสี UV รวมถึงแสงไฟจากหลอดไส้และหลอด Fluorescent ในตู้แช่เย็นทั่วไปก็เช่นกัน

เนื่องจากในไวน์นั้นมีสารประกอบเอสเทอร์และฟีนอลอยู่ หากแสงอาทิตย์ทะลุขวดเข้ามาสัมผัสกับน้ำไวน์ ทำให้เกิดสารซัลเฟอร์ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น และรสชาติ เช่น ไวน์แดงจะมีผลทำให้เกิดสัมผัสของแทนนิน (Tannin) และแอลกอฮอล์มากขึ้น ในขณะที่ไวน์ขาวจะเสียรสสัมผัสที่สดชื่นไป

ดังนั้น ตู้แช่ไวน์ ที่ดีควรมีการเคลือบกระจกด้วยสารป้องกันแสงอาทิตย์ที่มาจากภายนอกตู้ และระบบแสงสว่างภายในสำหรับเช็คฉลากไวน์ก่อนหยิบออกจากตู้ และใช้ระบบไฟแบบ LED ที่ให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไส้หรือหลอด Fluorescent และแผ่กระจายความร้อนออกมาน้อยกว่า

ซึ่ง ตู้แช่ไวน์ Dometic Winecellar นั้นมีกระจกนิรภัย Tempered Glass สามชั้น พร้อมเคลือบสารป้องกันรังสี UV อีกทั้งระบบไฟ LED ที่สามารถเปิดดูได้จากภายนอก โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้แช่ไวน์เพื่อเช็คสภาพไวน์ได้อีกด้วย

ระบบการควบคุมกลิ่น (ODOUR MANAGEMENT)

ตู้แช่ไวน์ที่ดีควรมีระบบการควบคุมกลิ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะในระบบหมุนเวียนอากาศที่จะต้องมีอุปกรณ์กรองอากาศที่ช่วยในการลดและควบคุมกลิ่น เช่น ตัวกรองอากาศที่มีคุณสมบัติในการกรองและดูดซับกลิ่นต่าง ๆ โดยตู้แช่ไวน์ Dometic Winecellar ของเรา มี Charcoal Filter ซึ่งได้รับการยอมรับว่าช่วยในการกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีเยี่ยมติดตั้งอยู่ภายในเครื่อง

การเก็บไวน์ที่แตกต่างกัน  (A DUAL ZONE WINE COOLER)

ถ้าต้องการเก็บไวน์แดงและไวน์ขาวไว้ในตู้เก็บไวน์เดียวกัน เรามีทางออกง่ายๆ โดยการเลือกใช้ตู้แช่ไวน์แบบ Dual Zone เป็นการทำความเย็นแก่ไวน์แบบ 2 โซน ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บไวน์ได้ 2 ชนิดในตู้แช่ไวน์เดียวกันโดยด้านบนเป็นไวน์ขาว ด้านล่างเป็นไวน์แดง ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มในการซื้อตู้แช่ไวน์แยกต่างหาก

เทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ (COMPRESSOR WINE CABINET)

ตู้แช่ไวน์ของเรามีเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม และเสียงเงียบ โดยใช้กระแสไฟฟ้าต่ำ และไม่กังวลเรื่องอุณหภูมิสูง เนื่องจากตู้แช่ไวน์จาก Dometic Winecellar สามารถตั้งอุณหภูมิในการดื่มไว้ล่วงหน้าได้และมีอุณหภูมิคงที่ เหมาะกับผู้ที่หลงไหลการดื่มไวน์อย่างแน่นอน!

แนะนำตู้แช่ไวน์รุ่นต่างๆของทางร้าน

D154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C154F ตู้แช่ไวน์ 154 ขวด
C46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
D42F ตู้แช่ไวน์ 42 ขวด
D46B ตู้แช่ไวน์ 46 ขวด
C18B ตู้แช่ไวน์ 18 ขวด

(กดเพื่อเข้าชมสินค้า)

DOMETIC WINE CELLAR

PERFECT STORAGE CONDITIONS FOR WINES AND CHILLED BEVERAGES
For a wine to unfold its full bouquet and flavor, both the storage conditions and the serving temperature must be right. As specialists in mobile refrigeration and climate control, we have created a comprehensive product range of wine coolers for keeping wines at their optimum temperature. Whether you are wine enthusiast looking for a home wine cellar or a business searching for a mini wine fridge or large capacity under counter wine cooler, we have the solution for you!

WHAT TO THINK OF WHEN BUYING A WINE CELLAR?
There are a number of factors that will go into selecting the right wine refrigerator for all of your needs. These include the wine fridge’s size, bottle capacity, volume, temperature zones, cooling components, length of anticipated storage time and shelf life of the unit. The better the wines that are in your collection, the longer you are probably going to age them. The only way wines reach their full potential is when they’re stored in a wine storage cabinet which properly protects them from all the enemies of wine. Unless your wine refrigerator is specifically designed for wine, then your wine is at risk!

DOMETIC WINE CELLARS – OPTIMAL STORAGE AND THE PERFECT TEMPERATURE 
Constant temperature throughout the year – between 12°C(53,6°F) and 14°C(57,2°F) achieved thanks to electronic temperature regulation in our wine cellars, acting on external cold or heat production. All wines, whether white or red, should be stored at the same temperature as that of a natural cellar. Constant adapted humidity – our wine coolers keep the humidity between 50-70 %. Only the greatest natural cellars keep this constant. Anti UV-protection – the “low emission” treatment of double-glazed doors on our wine fridges stops harmful ultraviolet rays. Constant ventilation – the air circulating inside the wine cellar by natural convection is constantly renewed. Outside air enters the upper cellar through an active carbon filter which effectively eliminates all odors before they enter the wine cellar. It is neatly emitted from the lower part of the cellar.

THE BEST WINE CELLAR CHOICE FOR AGING WINE
It is essential to know how to determine the optimal moment for tasting wines. The ageing process is altered by poor wine storage (variations in temperatures, vibrations, light, etc.). The choice of a suitable wine cellar, using these criteria, is crucial to ensure that your great wines reach their peak.

WINE STORAGE TIPS
Keep your wine bottles in the dark. Ultraviolet light in direct sunlight can harm the wine so make sure to store all wines away from the light. It is best to store them somewhere that is free from odors and well ventilated. Wine bottles should also rest in a stable position, free from vibrations. The temperature should remain constant throughout the year. Our superb wine cabinets can do all this and more!

HOW TO STORE DIFFERENT WINES 
What do you do if you want to store red and white wine together in the same wine storage cabinet? There is an easy solution! The best wine cooler in this situation is a dual zone wine cooler. A dual zone wine cooler allows you to store two different wines, according to their own ideal storage conditions, in the same wine storage cabinet. So you don’t need to spend extra money on a separate wine refrigerator for reds and whites!

COMPRESSOR WINE CABINET
Compressor technology means excellent cooling performance with low current consumption, irrespective of high ambient temperatures. Multi-temperature wine cabinets from Dometic are ideal for storing red, white and sparkling wines which are soon the be served. The desired drinking temperature is simply pre-set and kept constant.