7 เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟ - คู่มือเลือกรุ่นที่ใช่ คำนวณให้คุ้มค่า 💰☕

ถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟ 🤔 ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็ก ๆ หรือคาเฟ่ขนาดใหญ่ เรามาช่วยกันเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ใช่ที่สุด! มาดูกันว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับร้านขนาดไหน รองรับลูกค้าได้กี่คนต่อวัน และจะคุ้มทุนเมื่อไหร่กันบ้าง 💡

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นไหนเหมาะกับคุณ ? 🏆

ก่อนที่เราจะเริ่มเปรียบเทียบเครื่องทำน้ำแข็งแต่ละรุ่น มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนของร้านกาแฟกันก่อน:

ต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้วของร้านกาแฟ:

  • กาแฟ: 15-20 บาท
  • นม (สำหรับเครื่องดื่มที่ใช้นม): 10-15 บาท
  • น้ำตาล/ไซรัป: 3-5 บาท
  • แก้ว/ฝา/หลอด: 5-7 บาท
  • ค่าแรงพนักงาน (ต่อแก้ว): 5-10 บาท
  • ค่าน้ำ/ไฟ/เช่าที่ (ต่อแก้ว): 10-15 บาท

รวมต้นทุนเฉลี่ยต่อแก้ว: 48-72 บาท

หมายเหตุ: ต้นทุนอาจแตกต่างกันไปตามคุณภาพของวัตถุดิบและทำเลที่ตั้งของร้าน

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟ

1. เครื่องทำน้ำแข็ง 68 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดเล็ก เริ่มต้นธุรกิจอย่างชาญฉลาด 🌱

  • เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟขนาดเล็ก, ร้านขนม, ธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดเล็ก
  • กำลังการผลิต: 138 แก้ว (16 oz.) หรือ 102 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: ประมาณ 50-80 คนต่อวัน
  • ราคา: 35,900 บาท (ประหยัด 17,657 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 60 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 60 บาท x 65 คน (ค่าเฉลี่ย) = 3,900 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 60 – 60 = 0 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 100 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 100 บาท x 30 วัน = 3,000 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 12 เดือน (35,900 / 3,000)

แม้ว่าจะใช้เวลาคืนทุนนาน แต่เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวและเหมาะสำหรับร้านที่เพิ่งเริ่มต้น

2. เครื่องทำน้ำแข็ง 80 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดเล็กถึงกลาง เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ 🌿

  • เหมาะสำหรับ: ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ, ร้านเบเกอรี่, ร้านกาแฟที่มีลูกค้าประจำ
  • กำลังการผลิต: 154 แก้ว (16 oz.) หรือ 114 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: ประมาณ 70-100 คนต่อวัน
  • ราคา: 40,900 บาท (ประหยัด 20,330 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 65 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 65 บาท x 85 คน (ค่าเฉลี่ย) = 5,525 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 65 – 60 = 5 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 5 บาท x 85 คน = 425 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 120 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 120 บาท x 30 วัน = 3,600 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 11-12 เดือน (40,900 / 3,600)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับร้านที่มีกำไรเริ่มดีขึ้นและคาดว่าจะเติบโตในอนาคตอันใกล้

3. เครื่องทำน้ำแข็ง 100 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดกลาง สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ⚖️

  • เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟขนาดกลาง, ร้านเครื่องดื่ม, ร้านอาหารขนาดเล็ก
  • กำลังการผลิต: 187 แก้ว (16 oz.) หรือ 139 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: ประมาณ 100-150 คนต่อวัน
  • ราคา: 45,900 บาท (ประหยัด 23,003 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 70 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 70 บาท x 125 คน (ค่าเฉลี่ย) = 8,750 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 70 – 60 = 10 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 10 บาท x 125 คน = 1,250 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 150 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 150 บาท x 30 วัน = 4,500 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 10-11 เดือน (45,900 / 4,500)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับร้านที่มีกำไรดีและต้องการความยืดหยุ่นในการรองรับช่วงพีค

เครื่องทำน้ำแข็ง 100 กก ราคา

4. เครื่องทำน้ำแข็ง 150 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดกลาง รองรับธุรกิจที่กำลังเติบโต 🚀

  • เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟขนาดกลางถึงใหญ่, คาเฟ่, ร้านอาหารขนาดกลาง
  • กำลังการผลิต: 373 แก้ว (16 oz.) หรือ 276 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: ประมาณ 200-300 คนต่อวัน
  • ราคา: 63,900 บาท (ประหยัด 32,025 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 75 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 75 บาท x 250 คน (ค่าเฉลี่ย) = 18,750 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 75 – 60 = 15 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 15 บาท x 250 คน = 3,750 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 225 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 225 บาท x 30 วัน = 6,750 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 9-10 เดือน (63,900 / 6,750)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับร้านที่มีกำไรดีและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

5. เครื่องทำน้ำแข็ง 250 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดใหญ่และร้านอาหาร 🏆

  • เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟขนาดใหญ่, ร้านอาหาร, คาเฟ่ที่มีชื่อเสียง
  • กำลังการผลิต: 930 แก้ว (16 oz.) หรือ 689 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: 500+ คนต่อวัน
  • ราคา: 80,900 บาท (ประหยัด 41,713 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 80 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 80 บาท x 500 คน = 40,000 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 80 – 60 = 20 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 20 บาท x 500 คน = 10,000 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 375 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 375 บาท x 30 วัน = 11,250 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 7-8 เดือน (80,900 / 11,250)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าจำนวนมากตลอดทั้งวัน หรือร้านอาหารที่ต้องการน้ำแข็งในปริมาณมาก ด้วยกำลังการผลิตสูง คุณสามารถรองรับช่วงพีคได้อย่างสบาย และมีน้ำแข็งเพียงพอสำหรับเมนูพิเศษต่าง 

6. เครื่องทำน้ำแข็ง 300 กก./วัน – สำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่และร้านอาหาร 🍽️🥤

  • เหมาะสำหรับ: ร้านอาหารขนาดกลางถึงใหญ่, บาร์, โรงแรมขนาดกลาง, คาเฟ่ขนาดใหญ่, ร้านกาแฟขนาดใหญ่
  • กำลังการผลิต: 976 แก้ว (16 oz.) หรือ 723 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: 600+ คนต่อวัน
  • ราคา: 92,900 บาท (ประหยัด 46,928 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 85 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 85 บาท x 600 คน = 51,000 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 85 – 60 = 25 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 25 บาท x 600 คน = 15,000 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 450 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 450 บาท x 30 วัน = 13,500 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 7 เดือน (92,900 / 13,500)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้ เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่หรือร้านอาหารที่มีลูกค้าจำนวนมากตลอดทั้งวัน ด้วยกำลังการผลิตสูง คุณสามารถรองรับช่วงพีคได้อย่างสบาย และมีน้ำแข็งเพียงพอสำหรับเมนูพิเศษต่างๆ รวมถึงการใช้งานในครัว

7. เครื่องทำน้ำแข็ง 350 กก./วัน – ร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าจำนวนมาก ธุรกิจขนาดใหญ่ 🏨🍽️

  • เหมาะสำหรับ: โรงแรมขนาดใหญ่, ร้านอาหารขนาดใหญ่, ร้านอาหารหรู, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, ค่าเฟ่ร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าจำนวนมาก
  • กำลังการผลิต: 1,023 แก้ว (16 oz.) หรือ 757 แก้ว (22 oz.) ต่อ 8 ชั่วโมง
  • รองรับลูกค้า: 700+ คนต่อวัน
  • ราคา: 109,900 บาท (ประหยัด 51,816 บาท จากราคาเต็ม)

การคำนวณความคุ้มค่า:

  • สมมติว่าคุณขายเครื่องดื่มเฉลี่ยแก้วละ 90 บาท
  • รายได้ต่อวัน: 90 บาท x 700 คน = 63,000 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 60 บาท (ค่าเฉลี่ย)
  • กำไรต่อแก้ว: 90 – 60 = 30 บาท (ไม่รวมต้นทุนน้ำแข็ง)
  • กำไรต่อวัน: 30 บาท x 700 คน = 21,000 บาท
  • ต้นทุนน้ำแข็งต่อวัน (ถ้าซื้อ): ประมาณ 525 บาท
  • ประหยัดต้นทุนน้ำแข็งต่อเดือน: 525 บาท x 30 วัน = 15,750 บาท

ระยะเวลาคืนทุน: ประมาณ 7 เดือน (109,900 / 15,750)

เครื่องทําน้ําแข็งร้านกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการน้ำแข็งในปริมาณมาก เช่น โรงแรมที่มีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเยอะมากๆ หรือร้านอาหารที่มีลูกค้าจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด คุณสามารถรองรับความต้องการน้ำแข็งได้ทุกสถานการณ์

💡 สรุป: เลือกเครื่องทำน้ำแข็งให้เหมาะกับขนาดธุรกิจ

จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้วิเคราะห์ สามารถสรุปได้ดังนี้:

  1. ร้านกาแฟขนาดเล็ก (50-100 ลูกค้า/วัน): เลือกเครื่องขนาด 68-100 กก./วัน
  2. ร้านกาแฟขนาดกลาง (100-300 ลูกค้า/วัน): เลือกเครื่องขนาด 150-250 กก./วัน
  3. ร้านกาแฟขนาดใหญ่ (300+ ลูกค้า/วัน): เลือกเครื่องขนาด 300-350 กก./วัน

สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา:

  • ระยะเวลาคืนทุน: โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7-12 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องและปริมาณการใช้งาน
  • ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: เครื่องขนาดใหญ่อาจใช้พลังงานมากกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำแข็งที่ผลิตได้
  • พื้นที่ติดตั้ง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเครื่องขนาดที่คุณเลือก
  • การเติบโตในอนาคต: เลือกเครื่องที่มีกำลังการผลิตมากกว่าความต้องการปัจจุบันเล็กน้อย เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ

การลงทุนในเครื่องทำน้ำแข็งที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรับประกันว่าคุณจะมีน้ำแข็งเพียงพอสำหรับเครื่องดื่มทุกแก้วของลูกค้า 🎉☕

อย่าลืมพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เช่น ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การบำรุงรักษา คุณภาพน้ำแข็ง และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การตัดสินใจของคุณครอบคลุมทุกด้านและเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด 💪🏆

📚 แหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *