เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM MR-DS ผ่อนได้ 0% 10งวด

ในโลกอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปโลหะ การสร้างเกลียวที่มีคุณภาพและแม่นยำถือเป็นกระบวนการสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุดท้าย ปัจจุบัน เทคโนโลยีเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้าได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด และ MRCM ซีรีส์ MR-DS เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมนี้

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS จาก Zhejiang Meiri Intelligent Machinery Co., Ltd. ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 11 ปีในด้านเครื่องมือและเครื่องจักรความแม่นยำสูง ซีรีส์นี้นำเสนอโซลูชันขั้นสูงที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับความปลอดภัยในกระบวนการต๊าปเกลียว

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS อย่างละเอียด ตั้งแต่เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ คุณสมบัติเด่นของแต่ละรุ่น ไปจนถึงประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการลงทุนในอุปกรณ์คุณภาพสูงนี้

สารบัญ

  1. เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ MRCM ซีรีส์ MR-DS
  2. รุ่นและคุณสมบัติของเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MR-DS
  3. ระบบป้องกันดอกต๊าปหักอัจฉริยะ
  4. ส่วนต่อประสานผู้ใช้และโหมดการทำงาน
  5. การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ
  6. การเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ และการเลือกให้เหมาะกับงาน
  7. ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)

1. เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ MRCM ซีรีส์ MR-DS

ระบบควบคุมเซอร์โวไดรฟ์ (Servo Drive Control)

หัวใจสำคัญของเครื่องต๊าปเกลียวซีรีส์ MR-DS คือการใช้เซอร์โวมอเตอร์คุณภาพสูงเป็นกลไกขับเคลื่อนหลัก ซึ่งแตกต่างจากมอเตอร์ AC ทั่วไปหรือการทำงานด้วยมือ ระบบเซอร์โวให้ประโยชน์ที่เหนือกว่าหลายประการ:

  • การควบคุมความเร็วที่แม่นยำ  – สามารถปรับความเร็วรอบได้อย่างต่อเนื่อง (Stepless Speed Change) ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกความเร็วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับขนาดดอกต๊าปและวัสดุที่แตกต่างกันได้

  • แรงบิดคงที่  – เซอร์โวมอเตอร์ร่วมกับชุดเกียร์ทดรอบ (Planetary Reducer) ให้กำลังแรงบิดที่สูงและคงที่ตลอดช่วงความเร็ว ทำให้การต๊าปเกลียวมีความสม่ำเสมอ แม้ในวัสดุที่แข็งหรือเหนียว

  • การตอบสนองที่รวดเร็ว  – ระบบเซอร์โวสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงแรงต้านทานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับดอกต๊าปและชิ้นงาน

เทคโนโลยีเซอร์โวของ MRCM ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของกำลังขับ แต่เป็นเรื่องของ การควบคุม อย่างแท้จริง ระบบใช้การป้อนกลับ (Feedback Loop) เพื่อควบคุมตำแหน่ง ความเร็ว และแรงบิดได้อย่างแม่นยำ ความแม่นยำนี้ช่วยให้ชุดควบคุมของเครื่องจักรสามารถตรวจสอบกระบวนการต๊าปได้แบบเรียลไทม์ หากแรงบิดเกินค่าที่ตั้งไว้ ระบบจะตอบสนองทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย

การออกแบบและโครงสร้าง

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความสะดวกในการใช้งาน:

  • โครงสร้างแข็งแกร่ง  – ใช้การออกแบบทางกลขั้นสูงและกระบวนการหล่อขึ้นรูปสำหรับโครงสร้างหลัก ทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เสียรูป และมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม

  • แขนกลแบบข้อต่อ (Articulated Arm) – แขนกลที่มีความยืดหยุ่นช่วยให้สามารถเคลื่อนหัวต๊าปไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รองรับการต๊าปทั้งในแนวตั้งและแนวนอน

  • รัศมีการทำงานที่กว้าง  – แขนกลให้รัศมีการทำงานที่กว้าง ช่วยให้สามารถเข้าถึงชิ้นงานขนาดใหญ่หรือซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายชิ้นงานบ่อยครั้ง

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS

โซลูชันชั้นนำสำหรับงานต๊าปเกลียวในอุตสาหกรรม ด้วยเทคโนโลยีเซอร์โวไดรฟ์และระบบป้องกันดอกต๊าปหักอัจฉริยะ

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM รุ่น MR-DS12

MR-DS12

เครื่องต๊าปเกลียวขนาดเล็กที่แม่นยำ

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M2-M12
  • กำลังมอเตอร์: 600W
  • ความเร็วรอบ: 0-1000 RPM
  • น้ำหนัก: 27 kg

เหมาะสำหรับ:

  • ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • โรงงานผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็ก
  • งานที่ต้องการความละเอียดสูง
  • กิจการขนาดเล็กถึงกลาง
เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM รุ่น MR-DS16

MR-DS16

เครื่องต๊าปเกลียวขนาดกลางที่หลากหลาย

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M3-M16
  • กำลังมอเตอร์: 600W
  • ความเร็วรอบ: 0-312 RPM
  • น้ำหนัก: 32 kg

เหมาะสำหรับ:

  • โรงกลึงทั่วไป
  • โรงงานแปรรูปโลหะ
  • ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
  • กิจการขนาดกลาง
เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM รุ่น MR-DS24

MR-DS24

เครื่องต๊าปที่ทรงพลังสำหรับชิ้นส่วนขนาดใหญ่

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M6-M24
  • กำลังมอเตอร์: 1200W
  • ความเร็วรอบ: 0-200 RPM
  • น้ำหนัก: 50-55 kg

เหมาะสำหรับ:

  • การผลิตโครงสร้างเหล็ก
  • การผลิตเครื่องจักรกลหนัก
  • ฐานแม่พิมพ์ขนาดใหญ่
  • กิจการขนาดกลางถึงใหญ่
เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM รุ่น MR-DS30

MR-DS30

เครื่องต๊าปสำหรับงานหนัก

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M6-M30
  • กำลังมอเตอร์: 1200W
  • ความเร็วรอบ: 0-150 RPM
  • น้ำหนัก: 45-50 kg

เหมาะสำหรับ:

  • การผลิตงานหนัก
  • การผลิตอุปกรณ์ขนาดใหญ่
  • วิศวกรรมโครงสร้าง
  • กิจการขนาดใหญ่

ทางเลือกในการชำระเงิน

เรามีทางเลือกในการชำระเงินที่หลากหลายเพื่อความสะดวกของลูกค้า

ผ่อน 0% นาน 10 เดือน

ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้สูงสุด 10 งวด ดอกเบี้ย 0% กับบัตรเครดิตชั้นนำทุกธนาคาร

ชำระเงินสด

รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมสำหรับการชำระเงินสด หรือโอนเงินผ่านธนาคาร

สัญญาเช่าซื้อ

สำหรับองค์กรและบริษัท เรามีบริการสัญญาเช่าซื้อพร้อมเงื่อนไขพิเศษ

2. รุ่นและคุณสมบัติของเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MR-DS

MRCM ซีรีส์ MR-DS มีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะที่แตกต่างกัน ตั้งแต่งานละเอียดไปจนถึงงานหนัก มาทำความรู้จักกับแต่ละรุ่นกันอย่างละเอียด:

MR-DS12: เครื่องต๊าปเกลียวขนาดเล็กที่แม่นยำ (M2-M12)

 

คุณสมบัติเด่น:

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M2-M12
  • กำลังมอเตอร์: 600W
  • ความเร็วรอบ: 0-1000 RPM
  • รัศมีการทำงาน (แนวนอน): ~1100 mm
  • รัศมีการทำงาน (แนวตั้ง): ~380 mm (ปรับได้)
  • น้ำหนัก: 27 kg
  • หัวจับ Collet มาตรฐาน: M3, M4, M5, M6-8, M10, M12 (ชุด 6 ชิ้น)

เหมาะสำหรับ: งานที่ต้องการความแม่นยำสูงในการต๊าปเกลียวขนาดเล็ก เช่น การประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, กลไกละเอียด, การผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็ก หรือรายละเอียดบางอย่างในแม่พิมพ์

ประโยชน์ที่ได้รับ:

  • ความเร็วสูงสุดถึง 1000 RPM ช่วยเพิ่มผลิตภาพอย่างมากสำหรับงานรูเล็กปริมาณมาก
  • การควบคุมที่แม่นยำรับประกันคุณภาพสำหรับเกลียวละเอียด (M2, M3, M4)
  • ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก

MR-DS16: เครื่องต๊าปเกลียวขนาดกลางที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ (M3-M16)

 

คุณสมบัติเด่น:

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M3-M16
  • กำลังมอเตอร์: 600W
  • ความเร็วรอบ: 0-312 RPM
  • รัศมีการทำงาน (แนวนอน): ~1045-1100 mm
  • รัศมีการทำงาน (แนวตั้ง): ~380-400 mm (ปรับได้)
  • น้ำหนัก: 32 kg
  • ส่วนต่อประสานควบคุม: หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง
  • หัวจับ Collet มาตรฐาน: M3, M4, M5, M6-8, M10, M12, M14, M16 (ชุด 8 ชิ้น)

เหมาะสำหรับ: โรงกลึงทั่วไป, โรงงานแปรรูปโลหะ, ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, การผลิตแม่พิมพ์ ที่ต้องการเครื่องจักรที่หลากหลายสำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหล็ก, อลูมิเนียม, เหล็กหล่อ และวัสดุอื่นๆ

ประโยชน์ที่ได้รับ:

  • ครอบคลุมขนาดเกลียวที่ใช้บ่อยที่สุดในงานวิศวกรรมและการผลิตทั่วไป
  • หน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่ายช่วยให้การตั้งค่าพารามิเตอร์และตรวจสอบกระบวนการทำได้อย่างรวดเร็ว
  • ความเร็วและแรงบิดที่สมดุลเหมาะสำหรับการต๊าปในช่วง M3-M16 ในวัสดุต่างๆ

MR-DS24: เครื่องต๊าปที่ทรงพลังสำหรับชิ้นส่วนขนาดใหญ่ (M6-M24)

 

คุณสมบัติเด่น:

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M6-M24
  • กำลังมอเตอร์: 1200W
  • ความเร็วรอบ: 0-200 RPM
  • รัศมีการทำงาน (แนวนอน): ~1000-1100 mm
  • รัศมีการทำงาน (แนวตั้ง): ~520 mm (ปรับได้)
  • น้ำหนัก: 50-55 kg
  • ส่วนต่อประสานควบคุม: หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง

เหมาะสำหรับ: การผลิตโครงสร้างเหล็ก, การผลิตเครื่องจักรกลหนัก, ฐานแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ และการใช้งานที่ต้องการเกลียวขนาดใหญ่ถึง M24

ประโยชน์ที่ได้รับ:

  • กำลังมอเตอร์ 1200W ให้แรงบิดที่จำเป็นสำหรับการต๊าปเกลียวขนาดใหญ่ในวัสดุที่แข็ง
  • ระยะเอื้อมแนวตั้งที่เพิ่มขึ้น (520mm) รองรับชิ้นงานที่สูงกว่า
  • โครงสร้างที่แข็งแรงรองรับแรงที่เกี่ยวข้องกับการต๊าปขนาดใหญ่

MR-DS30: เครื่องต๊าปสำหรับงานหนัก (M6-M30)

 

คุณสมบัติเด่น:

  • ช่วงการต๊าปเกลียว: M6-M30
  • กำลังมอเตอร์: 1200W
  • ความเร็วรอบ: 0-120/150/200 RPM (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า)
  • รัศมีการทำงาน (แนวนอน): ~1045-1100 mm
  • รัศมีการทำงาน (แนวตั้ง): ~400-520 mm (ปรับได้)
  • น้ำหนัก: 45-50 kg
  • ส่วนต่อประสานควบคุม: หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง
  • หัวจับ Collet มาตรฐาน: M6-8, M10, M12, M14, M16, M18-20, M22, M24, M27-30 (ชุด 9 ชิ้น)

เหมาะสำหรับ: การผลิตงานหนัก, การผลิตอุปกรณ์ขนาดใหญ่, วิศวกรรมโครงสร้าง และการใช้งานที่ต้องการเกลียวขนาดใหญ่ถึง M30

ประโยชน์ที่ได้รับ:

  • ความสามารถในการต๊าปสูงสุดถึง M30 ตอบสนองความต้องการสำหรับขนาดเกลียวที่ใหญ่มาก
  • แรงบิดสูงจากมอเตอร์ 1200W ให้กำลังที่จำเป็นสำหรับการต๊าป M30 แม้ในวัสดุที่ท้าทาย
  • การออกแบบที่แข็งแกร่งทนต่อแรงกดดันของการต๊าปงานหนักขนาดใหญ่

3. ระบบป้องกันดอกต๊าปหักอัจฉริยะ

MRCM ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการป้องกันดอกต๊าป ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยและมีค่าใช้จ่ายสูงในการต๊าปเกลียว เครื่องต๊าปเกลียวซีรีส์ MR-DS จึงมาพร้อมกับระบบป้องกันสองชั้นที่ทรงประสิทธิภาพ:

ระบบป้องกันแรงบิดอัจฉริยะ (Intelligent Torque Protection)

 

ระบบควบคุมเซอร์โวจะตรวจสอบแรงบิดที่เกิดขึ้นระหว่างการต๊าปอย่างต่อเนื่อง หากแรงบิดเกินค่าที่ตั้งไว้ ระบบจะทำงานทันที:

  • การตรวจจับแบบเรียลไทม์  – ระบบตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของแรงบิดในทุกมิลลิวินาที
  • การตอบสนองอัตโนมัติ  – หยุดหรือถอยดอกต๊าปกลับโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบแรงบิดเกิน
  • การปรับตั้งค่าที่ละเอียด  – ผู้ใช้สามารถตั้งค่าระดับแรงบิดที่เหมาะสมกับขนาดดอกต๊าปและวัสดุที่กำลังทำงาน

ระบบป้องกันการโอเวอร์โหลดที่หัวจับ Collet (Overload Protection Collets)

 

หัวจับ Collet ได้รับการออกแบบให้มีคลัตช์นิรภัยแบบปรับได้ (Adjustable Safety Clutch) ซึ่งทำงานเป็นกลไกป้องกันสำรอง:

  • คลัตช์กลไก  – หากแรงบิดสูงเกินไป คลัตช์จะแยกตัวออกจากกัน ทำให้ดอกต๊าปหยุดหมุนและไม่เกิดความเสียหาย
  • การปรับแบบละเอียด  – สามารถปรับตั้งค่าแรงบิดของคลัตช์ได้ตามความต้องการของงาน
  • ความน่าเชื่อถือ  – ทำงานได้แม้ในกรณีที่ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว

การมีระบบป้องกันซ้ำซ้อนสองชั้น (การควบคุมด้วยเซอร์โว + คลัตช์กลไกที่หัวจับ) ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและลดโอกาสที่ดอกต๊าปจะหักได้อย่างมาก ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนจาก:

  • ค่าเปลี่ยนดอกต๊าปที่มีราคาสูง
  • ความเสียหายที่อาจเกิดกับชิ้นงานมูลค่าสูง
  • เวลาหยุดทำงานที่สูญเสียไปในการแก้ไขปัญหา

4. ส่วนต่อประสานผู้ใช้และโหมดการทำงาน

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ลดความจำเป็นในการใช้ทักษะเฉพาะทาง ด้วยส่วนต่อประสานและโหมดการทำงานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้:

หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง (High Definition Touch Screen)

 

เครื่องจักรส่วนใหญ่ในซีรีส์ MR-DS มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่น:

  • อินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย  – แสดงพารามิเตอร์การทำงานที่สำคัญทั้งหมดอย่างชัดเจน
  • การตั้งค่าที่รวดเร็ว  – ปรับเปลี่ยนความเร็ว, ความลึก, ระยะพิทช์ และพารามิเตอร์อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • การแสดงผลแบบเรียลไทม์  – แสดงข้อมูลการทำงานปัจจุบัน เช่น แรงบิด, ความเร็ว, ความลึก

โหมดการทำงาน 3 แบบ

เครื่องต๊าปเกลียวซีรีส์ MR-DS มีโหมดการทำงานหลัก 3 โหมดให้เลือกใช้งาน:

1. โหมดแมนนวล (Manual Mode)

 

  • การควบคุมโดยตรง  – ผู้ปฏิบัติงานควบคุมการทำงานโดยตรง
  • เหมาะสำหรับ – การตั้งค่าเริ่มต้น หรือการต๊าปชิ้นงานเดี่ยวที่ต้องการความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ความยืดหยุ่น – ให้อิสระในการควบคุมความเร็วและความลึกตามต้องการ

2. โหมดอัตโนมัติ (Automatic Mode)

 

  • การตั้งค่าครั้งเดียว  – ผู้ใช้ตั้งค่าพารามิเตอร์ที่จำเป็น (ความเร็ว, ความลึก, ระยะพิทช์, ความเร็วถอยกลับ) ผ่านหน้าจอสัมผัส
  • การทำงานอัตโนมัติ  – เครื่องจะทำงานต๊าปตามรอบที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ
  • ระบบควบคุมความลึกอัตโนมัติ  – ใช้ตัวควบคุมความลึก (Depth Controller) เพื่อให้ได้ความลึกที่แม่นยำทุกครั้ง
  • เหมาะสำหรับ – การผลิตจำนวนมากที่ต้องการความสม่ำเสมอ

3. โหมดเชื่อมโยง/รูลึก/สั่น (Linkage/Deep Hole/Vibration Mode)

 

  • สำหรับงานพิเศษ  – ออกแบบมาสำหรับงานที่ซับซ้อน
  • การต๊าปรูลึก  – มีการควบคุมพิเศษสำหรับการต๊าปรูที่มีความลึกมาก โดยจะมีการถอยดอกต๊าปเป็นระยะเพื่อขจัดเศษและลดความร้อน
  • โหมดสั่น  – ช่วยในการหักเศษและคายเศษในวัสดุที่มีเศษยาวหรือเหนียว เช่น อลูมิเนียม สแตนเลส
  • การเชื่อมโยงอัจฉริยะ  – ระบบสามารถปรับพารามิเตอร์แบบไดนามิกตามสภาพการทำงานจริง

การผสมผสานระหว่างหน้าจอสัมผัสและโหมดการทำงานที่หลากหลายช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีประสบการณ์น้อย ช่วยลดเวลาในการฝึกอบรม เพิ่มความสม่ำเสมอ และเพิ่มผลิตภาพ ทำให้เครื่องจักรน่าสนใจสำหรับโรงงานที่ต้องการประสิทธิภาพและความสะดวกในการนำไปใช้งาน

5. การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS มีความหลากหลายและสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและวัสดุต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท

อุตสาหกรรมเป้าหมาย

 

การผลิตเครื่องจักร 

  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ต้องการเกลียวที่แม่นยำ
  • การประกอบโครงสร้างเครื่องจักรขนาดใหญ่
  • การซ่อมบำรุงอุปกรณ์อุตสาหกรรม

การผลิตแม่พิมพ์และดาย 

  • การต๊าปเกลียวในฐานแม่พิมพ์
  • การสร้างเกลียวในชิ้นส่วนแม่พิมพ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • การทำเกลียวในวัสดุแม่พิมพ์ที่แข็ง เช่น S136, 718H

การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 

  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์
  • การทำเกลียวในชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง
  • การผลิตชิ้นส่วนโครงรถและตัวถัง

การแปรรูปโลหะและโรงงานรับจ้างผลิต 

  • งานต๊าปเกลียวทั่วไปในโลหะประเภทต่างๆ
  • การผลิตชิ้นส่วนตามสั่ง
  • การแปรรูปโลหะแผ่นและโครงสร้าง

วิศวกรรมโครงสร้าง 

  • การต๊าปเกลียวในเหล็กโครงสร้างขนาดใหญ่
  • การทำเกลียวสำหรับการยึดติดในงานก่อสร้าง
  • การผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างพิเศษ

อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ 

  • การผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • การทำเกลียวในวัสดุพิเศษ เช่น อลูมิเนียมเกรดการบิน
  • การต๊าปเกลียวในชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัย

อิเล็กทรอนิกส์ 

  • การต๊าปเกลียวขนาดเล็กในแชสซี
  • การทำเกลียวในโครงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • การประกอบชิ้นส่วนที่ต้องการความละเอียด

วัสดุที่ใช้งานได้

 

โลหะ

  • เหล็ก – เกรดต่างๆ เช่น Q235, 40Cr
  • สแตนเลส – ทั้งเกรด 304, 316 และอื่นๆ
  • อลูมิเนียม – เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องต๊าปเกลียวที่มีระบบป้องกันแรงบิดอัจฉริยะ
  • ทองแดง – ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมด้วยการควบคุมความเร็วที่เหมาะสม
  • เหล็กหล่อ – ทำงานได้ดีแม้ในวัสดุที่เปราะ

อโลหะ (ในบางกรณี)

  • พลาสติกวิศวกรรม – เช่น POM, Nylon, PEEK
  • ไม้แข็ง – สำหรับการใช้งานพิเศษ

กรณีการใช้งานที่โดดเด่น

 

การสร้างเกลียวสำหรับตัวยึด

  • โบลต์, สกรู และตัวยึดประเภทต่างๆ
  • การทำเกลียวที่มีขนาดมาตรฐานและพิเศษ

การต๊าปรูทะลุและรูตัน

  • รองรับทั้งการต๊าปรูทะลุ (Through Hole) และรูตัน (Blind Hole)
  • ระบบควบคุมความลึกอัตโนมัติช่วยให้การต๊าปรูตันแม่นยำ

การต๊าปในการผลิตเป็นชุด

  • โหมดอัตโนมัติช่วยให้ผลิตชิ้นงานจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความสม่ำเสมอและคุณภาพที่คงที่ในทุกชิ้นงาน

การต๊าปบนชิ้นงานขนาดใหญ่หรือซับซ้อน

  • แขนกลที่ยืดหยุ่นช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง
  • ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่หรือหนัก

6. การเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ และการเลือกให้เหมาะกับงาน

การเลือกรุ่นที่เหมาะสมของเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน ตารางเปรียบเทียบด้านล่างจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น:

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลจำเพาะ

คุณสมบัติMR-DS12MR-DS16MR-DS24MR-DS30
ช่วงการต๊าปเกลียวM2-M12M3-M16M6-M24M6-M30
กำลังมอเตอร์ (W)60060012001200
ความเร็วรอบ (RPM)0-10000-3120-2000-120/150/200
รัศมีการทำงาน (แนวนอน) mm~1100~1100~1100~1100
รัศมีการทำงาน (แนวตั้ง) mm~380~380-400~520~520
น้ำหนัก (kg)27325045-50
ส่วนต่อประสานควบคุมหน้าจอสัมผัสหน้าจอสัมผัสหน้าจอสัมผัสหน้าจอสัมผัส
การใช้งานหลักเกลียวเล็ก, ความเร็วสูงเอนกประสงค์, ทั่วไปเกลียวใหญ่, งานหนักเกลียวใหญ่มาก, งานหนัก

ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกรุ่น

 

1. ช่วงการต๊าปที่ต้องการ 

  • MR-DS12: เหมาะสำหรับงานละเอียดที่ต้องการต๊าปเกลียวขนาดเล็กตั้งแต่ M2
  • MR-DS16: ครอบคลุมช่วงการใช้งานทั่วไปมากที่สุด (M3-M16)
  • MR-DS24/DS30: สำหรับงานหนักที่ต้องการเกลียวขนาดใหญ่

2. วัสดุและขนาดรูทั่วไป 

  • วัสดุแข็งและรูขนาดใหญ่ต้องการกำลังมากกว่า → เลือก DS24/DS30
  • วัสดุอ่อนและรูขนาดเล็กสามารถใช้ความเร็วสูงได้ → เลือก DS12/DS16

3. ขนาดและความสูงของชิ้นงาน 

  • ชิ้นงานสูงหรือใหญ่ต้องการระยะเอื้อมมากกว่า → DS24/DS30 มีระยะเอื้อมแนวตั้งที่มากกว่า (520 mm)

4. ปริมาณการผลิตและความต้องการด้านความเร็ว 

  • ปริมาณงานสูงสำหรับชิ้นส่วนเล็ก → DS12 ด้วยความเร็วสูงสุด 1000 RPM
  • งานหลากหลายทั่วไป → DS16 ที่มีความสมดุลระหว่างความเร็วและแรงบิด
  • งานหนักที่ต้องการแรงบิดสูง → DS24/DS30

5. งบประมาณ 

  • ราคาจะเพิ่มขึ้นตามความสามารถในการต๊าปและกำลังมอเตอร์
  • พิจารณา ROI จากประสิทธิภาพและความสามารถที่เพิ่มขึ้น

คำแนะนำในการเลือกรุ่น

  • สำหรับโรงกลึงทั่วไป: MR-DS16 เป็นตัวเลือกที่สมดุลที่สุด ครอบคลุมขนาดเกลียวที่ใช้บ่อยที่สุด
  • สำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์/ชิ้นส่วนเล็ก: MR-DS12 ให้ความเร็วและความแม่นยำที่จำเป็น
  • สำหรับงานโครงสร้าง/งานหนัก: MR-DS24 หรือ MR-DS30 มีกำลังและความสามารถที่จำเป็น
  • สำหรับโรงงานที่มีงานหลากหลาย: อาจพิจารณาใช้ MR-DS16 คู่กับ MR-DS24/DS30 เพื่อครอบคลุมทุกการใช้งาน

7. ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)

การลงทุนในเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับกระบวนการผลิต แต่ยังให้ผลตอบแทนทางการเงินที่จับต้องได้ในระยะยาว

การลดต้นทุนการดำเนินงาน

 

1. การประหยัดจากดอกต๊าปที่หักน้อยลง 

  • ดอกต๊าปคุณภาพสูงมีราคาแพง โดยเฉพาะขนาดใหญ่หรือวัสดุพิเศษ
  • ระบบป้องกันแรงบิดอัจฉริยะและ Overload Protection Collets ช่วยลดการหักของดอกต๊าปได้ถึง 90%
  • การประหยัดต่อปี: หากดอกต๊าปราคาเฉลี่ย 500-3,000 บาทต่อชิ้น และการใช้งานทั่วไปอาจทำให้หักหลายสิบชิ้นต่อปี การลดการหักลง 90% จะประหยัดได้หลายหมื่นบาท

2. การลดของเสียและงานซ่อม 

  • เกลียวที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเสียหายต้องทำใหม่หรือทิ้ง
  • การควบคุมที่แม่นยำช่วยให้ได้เกลียวที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ
  • การประหยัด: ลดของเสียได้ 50-70% ในกระบวนการต๊าปเกลียว

3. การประหยัดเวลาและแรงงาน 

  • โหมดอัตโนมัติช่วยลดเวลาการทำงานลง 40-60% เมื่อเทียบกับการต๊าปด้วยมือ
  • ผู้ปฏิบัติงานหนึ่งคนสามารถดูแลเครื่องจักรหลายเครื่องหรือทำงานอื่นไปพร้อมกัน
  • การประหยัด: เพิ่มผลิตภาพแรงงานได้ 30-50%

การเพิ่มคุณภาพและความสามารถในการผลิต

 

1. คุณภาพเกลียวที่ดีขึ้น 

  • ความสม่ำเสมอของเกลียวที่ผลิตแต่ละครั้ง
  • ความแม่นยำของความลึกและขนาดเกลียว
  • ผลลัพธ์: ลดการปฏิเสธชิ้นงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

2. ความสามารถในการรับงานที่หลากหลายขึ้น 

  • รองรับขนาดเกลียวที่หลากหลายตั้งแต่ M2 ถึง M30
  • ความสามารถในการทำงานกับวัสดุที่หลากหลาย
  • ผลลัพธ์: เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้า

3. เวลาส่งมอบที่เร็วขึ้น 

  • กระบวนการผลิตที่เร็วขึ้นช่วยลดเวลาส่งมอบ
  • ลดความล่าช้าจากการแก้ไขงานหรือการรอดอกต๊าปใหม่
  • ผลลัพธ์: เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและรักษาลูกค้า

ระยะเวลาคืนทุน

การลงทุนในเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS มักจะคืนทุนภายในระยะเวลา 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณงานและลักษณะการใช้งาน โดยพิจารณาจาก:

  • การประหยัดค่าดอกต๊าปที่หัก
  • การลดของเสียและงานซ่อม
  • การเพิ่มผลิตภาพและลดเวลาการผลิต
  • การขยายความสามารถในการรับงาน

สรุป

เครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS นำเสนอโซลูชันที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการต๊าปเกลียวในอุตสาหกรรม ด้วยจุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่:

  • ความแม่นยำจากระบบเซอร์โว  – การควบคุมความเร็วและแรงบิดที่เหนือกว่า
  • ระบบป้องกันดอกต๊าปชั้นนำ  – การผสมผสานระหว่างการควบคุมแรงบิดอัจฉริยะและหัวจับ Collet ป้องกันโอเวอร์โหลด
  • ประสิทธิภาพสูง  – โหมดอัตโนมัติ ความเร็วที่เหมาะสม และการตั้งค่าที่ง่ายดาย
  • ใช้งานง่าย  – หน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่ายและแขนกลที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
  • ความทนทานและความหลากหลาย  – โครงสร้างที่แข็งแกร่งและช่วงการต๊าปที่หลากหลาย

ซีรีส์ MR-DS มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ MR-DS12 สำหรับงานละเอียด, MR-DS16 สำหรับการใช้งานทั่วไป, ไปจนถึง MR-DS24 และ MR-DS30 สำหรับงานหนักที่ต้องการแรงบิดสูง ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างครบถ้วน

การลงทุนในเครื่องต๊าปเกลียวไฟฟ้า MRCM ซีรีส์ MR-DS ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตยุคปัจจุบัน